ข้อควรระวัง อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องติดแบล็คลิสต์ ก่อนจะสายเกินไป

CarMarket 0 Comments พฤศจิกายน 7, 2023

การติดแบล็คลิสต์ส่งผลเสียต่อชีวิตทางการเงินอย่างมาก เพราะจะทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ ได้ และยังส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินในอนาคตอีกด้วย ดังนั้น จึงควรระมัดระวังอย่าให้ตัวเองต้องติดแบล็คลิสต์ ก่อนจะสายเกินไป

เครดิตบูโร (Credit Bureau)

เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือ ฐานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ที่รวบรวมข้อมูลสินเชื่อของประชาชนทุกคนในประเทศไทย เพื่อให้สถาบันการเงินใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ โดยข้อมูลในเครดิตบูโรจะแสดงประวัติการชำระหนี้ของเราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อรถยนต์ หากเรามีประวัติการชำระหนี้ดี ก็จะยิ่งได้เปรียบในการขอสินเชื่อในอนาคต แต่ในทางกลับกัน หากเรามีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ก็อาจถูกขึ้นแบล็คลิสต์เครดิตบูโรได้

แบล็คลิสต์ (Blacklist)

แบล็คลิสต์ (Blacklist) คือ รายชื่อบุคคลหรือบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจทางการเงิน ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ ปฏิเสธที่จะให้บริการทางการเงิน เช่น การขอสินเชื่อ บัตรเครดิต หรือแม้แต่การเปิดบัญชีธนาคาร

การติดแบล็คลิสต์ส่งผลเสียต่อชีวิตทางการเงินอย่างมาก เพราะจะทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ ได้ ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น การขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้แต่การสมัครบัตรเครดิต นอกจากนี้ การติดแบล็คลิสต์ยังส่งผลเสียต่อชื่อเสียงทางการเงิน ทำให้เกิดความเสื่อมเสียทางเครดิต และทำให้ยากยิ่งขึ้นในการขอสินเชื่อหรือบริการทางการเงินอื่นๆ ในอนาคต

สาเหตุที่ทำให้ติดแบล็คลิสต์

1. ผิดนัดชำระหนี้

สาเหตุหลักที่ทำให้ติดแบล็คลิสต์ คือ การผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินประเภทใดก็ตาม เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้รถยนต์ หรือหนี้บ้าน เมื่อผิดนัดชำระหนี้ติดต่อกันเกิน 3 เดือน สถาบันการเงินจะรายงานข้อมูลดังกล่าวไปยังเครดิตบูโร (Credit Bureau) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเครดิตของประชาชน

2. มีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจทางการเงิน

นอกจากการผิดนัดชำระหนี้แล้ว ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่อาจทำให้ติดแบล็คลิสต์ได้ เช่น การเบิกเงินเกินบัญชี การออกเช็คเด้ง การใช้บัตรเครดิตเกินวงเงิน หรือการมีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นต้น

ผลเสียของการติดแบล็คลิสต์

1. ไม่สามารถขอสินเชื่อได้

เมื่อติดแบล็คลิสต์แล้ว จะไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อบ้าน เพราะสถาบันการเงินจะมองว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้

2. ไม่สามารถขอเปิดบัตรเครดิตได้

นอกจากจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้แล้ว ยังไม่สามารถขอเปิดบัตรเครดิตได้อีกด้วย เพราะสถาบันการเงินจะไม่ต้องการเสี่ยงที่จะให้บัตรเครดิตกับผู้ที่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้

3. ไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้

ในบางกรณี ผู้ที่ติดแบล็คลิสต์อาจไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ เนื่องจากธนาคารจะมองว่าเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีพฤติกรรมทุจริตทางการเงิน

4. ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงิน

การติดแบล็คลิสต์จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือทางการเงินในอนาคต ทำให้ยากที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อหรือบัตรเครดิตในอนาคต

วิธีป้องกันไม่ให้ติดแบล็คลิสต์

1. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ติดแบล็คลิสต์ คือ การชำระหนี้ให้ตรงเวลาทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินประเภทใดก็ตาม ควรจ่ายให้ตรงตามกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้

2. ใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ

การใช้บัตรเครดิตอย่างมีสติ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดหนี้สินล้นพ้นตัว และไม่ทำให้ติดแบล็คลิสต์ ควรใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และไม่ควรใช้เกินวงเงิน

3. อย่าค้ำประกันหนี้ให้ผู้อื่น

การค้ำประกันหนี้ให้ผู้อื่นมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ติดแบล็คลิสต์ได้ หากผู้ที่เรารับประกันผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินจะมองว่าเรามีส่วนรับผิดชอบด้วย และอาจทำให้เราติดแบล็คลิสต์ได้

4. ตรวจสอบเครดิตบูโรเป็นประจำ

การตรวจสอบเครดิตบูโรเป็นประจำ จะช่วยให้เรารู้ว่าเรามีหนี้สินอะไรบ้าง และมีประวัติการชำระหนี้เป็นอย่างไร หากพบว่ามีหนี้สินที่ผิดนัดชำระ ควรรีบชำระหนี้ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ติดแบล็คลิสต์

หากติดแบล็คลิสต์แล้วต้องทำอย่างไร

หากติดแบล็คลิสต์แล้ว ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีวิธีแก้ไขได้ โดยสามารถติดต่อสถาบันการเงินที่เราติดแบล็คลิสต์อยู่ เพื่อขอเจรจาชำระหนี้ และขอให้ลบชื่อเราออกจากแบล็คลิสต์

นอกจากนี้ ยังสามารถติดต่อบริษัทแก้ไขเครดิตบูโร เพื่อให้ช่วยเจรจากับสถาบันการเงิน และช่วยลบชื่อเราออกจากแบล็คลิสต์ได้เช่นกัน

ดังนั้น การติดแบล็คลิสต์ทางการเงินเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะส่งผลกระทบต่อชีวิตทางการเงินของเราอย่างมาก ดังนั้น จึงควรหมั่นตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเองอยู่เสมอ และรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดี เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องติดแบล็คลิสต์ทางการเงิน 

มองหาสินเชื่อรถยนต์ ปิดบัญชี และรีไฟแนนซ์ ต้อง Carmarket
ติดต่อเราได้ที่
Facebook : คาร์มาร์เก็ต
Line : @carmarket
โทรสายด่วน : 080-446-9599 

Leave a Comment