สตาร์ทรถให้ถูกวิธี ช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้
การสตาร์ทรถเป็นสิ่งง่ายๆที่ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนทำได้ บางคนก็อาศัยความเคยชินในการสตาร์ทรถ แต่จะมีสักกี่คนที่ทำถูกวิธี รถซื้อมาก็แพงมาก บางคนต้องทนผ่อนรถกว่าจะหมด ดังนั้นเราควรถนอมมันสักหน่อย ด้วยการเริ่มจากสตาร์ทรถให้ถูกวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้กับเรา แล้วรถก็จะอยู่กับเราไปได้อีกนานหลายปีเลยล่ะ
ปัจจุบันนี้โลกก้าวหน้าไปมาก กลายเป็นโลกแห่งเทคโนโลยี ทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ๆก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย รถบางคันก็ถูกออกแบบมาให้สตาร์ทรถยนต์ด้วยการกดปุ่ม หรือบางยี่ห้อก็สามารถสตาร์ทรถผ่านแอพพลิเคชั่นได้เลย แต่ถึงแม้เทคโนโลยีในการสตาร์ทรถจะก้าวหน้าไปไกลขนาดไหน รถส่วนใหญ่ที่เห็นตามท้องถนนก็ยังใช้วิธีสตาร์ทรถด้วยการบิดกุญแจอยู่ เพื่อเป็นการช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้นานๆ เรามาเรียนรู้วิธีการสตาร์ทรถให้ถูกต้องกันดีกว่า
1. นั่งอยู่ในท่าที่เหมาะสมพร้อมขับขี่
ก่อนขับขี่รถยนต์ทุกครั้ง ผู้ขับขี่ควรอยู่ในท่านั่งที่เหมาะสม มือจับพวงมาลัย พร้อมกับตรวจเช็คความเรียบร้อยต่างๆก่อนเสมอ เช่น เบาะนั่งปรับพอดีกับการขับขี่ทั้งระยะห่างและความสูง, ปรับกระจกมองข้าง หรือคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนสตาร์ทรถด้วย จะได้ไม่ต้องมาปรับหรือคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่ทีหลัง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้การสตาร์ทเครื่องยนต์ก่อนแล้วค่อยไปตรวจเช็คความพร้อมในการขับขี่เป็นการปล่อยมลพิษเพิ่มอีกด้วย
2. เช็คตำแหน่งของเกียร์
สำหรับรถเกียร์ออโต้ระบบทำมาปลอดภัยดีอยู่แล้ว คือ หากเกียร์รถไม่อยู่ในตำแหน่ง P (Park) หรือ N (Neutral) จะไม่สามารถสตาร์ทรถได้ แต่ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดานี่สิ อันตรายมากหากไม่เช็คตำแหน่งของเกียร์ให้ดีๆ ฉะนั้นก่อนสตาร์ทรถเกียร์ธรรมดาทุกครั้ง ต้องเช็คตำแหน่งของเกียร์รถก่อนว่าอยู่ในตำแหน่ง N แล้ว เพราะหากเกียร์ยังคงค้างอยู่ในตำแหน่งอื่น เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ จะทำให้รถกระตุกพุ่งไปข้างหน้าหรือด้านหลัง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและความเสียหายได้
3. เหยียบเบรกทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ
รถรุ่นใหม่ระบบออโต้ หากไม่เหยียบเบรกรถก็สตาร์ทไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากเป็นรถเกียร์ธรรมดา ก่อนสตาร์ทรถผู้ขับขี่ควรเหยียบเบรกก่อนทุกครั้งเสมอ
4. เช็คสวิตช์ไฟเตือน
การบิดกุญแจ ควรค่อยๆบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง On อย่างนุ่มนวล ไม่ควรออกแรงกระชาก จากนั้นไฟสัญญาณเตือนสถานะต่างๆจะโชว์ขึ้นมาบนหน้าปัดรถ ให้ดูสถานะความผิดปกติของเครื่องยนต์ก่อน เมื่อไฟขึ้นแล้วดับครบ ก็ให้บิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง Start ที่สำคัญอย่าลืมเหยียบเบรกค้างไว้ด้วย จากนั้นเมื่อเครื่องยนต์ติด ไม่พบว่ามีเสียงที่ผิดปกติหรืออาการสั่นผิดปกติ ก็ค่อยๆออกรถและขับช้าๆเป็นเวลา 1 นาที เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องยนต์โดยไม่ต้องจอดแช่เอาไว้ เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน
หลายคนมักจะสตาร์ทรถด้วยความเคยชินและเผลอทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น เปิดแอร์ทิ้งไว้, เปิดไฟรถทิ้งไว้ หรือเสียบสายชาร์ทแบตทิ้งไว้ โดยไม่ปิดหรือดึงออกก่อนสตาร์ทรถ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลให้รถแบตหมด และหากสตาร์ทรถโดยที่ไม่ปิดระบบต่างๆก่อนก็จะทำให้มอเตอร์สตาร์ทเกิดการสึกหรอ เครื่องยนต์ทำงานหนัก และเสื่อมเร็วขึ้น เนื่องจากกำลังไฟในการสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้สติก็เป็นสิ่งสำคัญในการสตาร์ทรถและการขับขี่ หากมีสติครบถ้วนตลอดการขับขี่และสตาร์ทรถได้อย่างถูกต้อง การขับขี่ก็จะเป็นไปด้วยความปลอดภัย และช่วยยืดอายุให้รถยนต์อยู่กับเราไปนานๆด้วย
มองหาสินเชื่อรถยนต์ ปิดบัญชี และรีไฟแนนซ์ ต้อง Carmarket
ติดต่อเราได้ที่
Facebook : คาร์มาร์เก็ต
Line : @carmarket
โทรสายด่วน : 080-446-9599
